วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ชุดประจำชาติของญี่ปุ่น

กิโมโน (KIMONO)

กิโมโน (ภาษาญี่ปุ่น: 着物  kimono คิโมะโนะ) เป็นชุดแต่งกายประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะของกิโมโน
กิโมโนประกอบด้วยเสื้อนางางิ (長着) ซึ่งมีลักษณะเป็นคลุมขนาดยาวที่มีแขนเสื้อที่มีความกว้างมาก และสายโอบิ (帯) ซึ่งใช้รัดเสื้อคลุมนี้ให้อยู่คงที่ ชุดกิโมโนทั้งของหญิงและชายเมื่อใส่แล้วจะพรางรูปของผู้สวมใส่ไม่ให้เห็นสัดส่วนที่แท้จริง ชุดกิโมโนของผู้หญิงโสดเป็นกิโมโนแขนยาว ลวดลายที่นิยมคือลายดอกซากุระ กิโมโนของผู้หญิงแต่งงานแล้วจะเป็นกิโมโนแขนสั้นสีไม่ฉูดฉาดมาก
untitled

ประวัติ
สมัยนารา (ค.ศ. 710 – 794) ก่อนที่ชุดกิโมโนจะเป็นที่นิยม ชาวญี่ปุ่นมักแต่งชุดท่อนบนกับท่อนล่างเหมือนกันหรือไม่ก็เป็นผ้าชิ้นเดียวกันไปเลย
ต่อมาในสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794 – 1192) ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นการใส่กิโมโน ชาวญี่ปุ่นพัฒนาเทคนิคการตัดชุดเสื้อผ้าด้วยการตัดผ้าเป็นเส้นตรง เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ หยิบมาคลุมตัวได้ทันที ทั้งยังเป็นชุดที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ สามารถเปลี่ยนเนื้อผ้าที่ตัดเย็บให้เหมาะกับฤดูกาล ความสะดวกสบายนี้ทำให้ชุดกิโมโนแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว โดยวงการแฟชั่นสมัยนั้น ผู้ตัดเย็บก็จะคิดหาวิธีที่ทำให้ชุดกิโมโนมีสีสัน ผสมผสานกันด้วยสีต่างๆให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและชนชั้นทาง สังคมถือว่าเป็นช่วงที่ชุดพัฒนาในเรื่อง สี มากที่สุด
ในยุคคามาคุระ (ค.ศ. 1338 – 1573) ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะนิยมใส่ชุดกิโมโนที่สีสันแสบทรวง ยิ่งเป็นนักรบจะต้องยิ่งใส่ชุดที่สีฉูดฉาดมากๆเพื่อแสดงถึงความเป็นผู้นำบางครั้งเรียกว่าไปแข่งแฟชั่นกันในสนาม รบเลยทีเดียว
ต่อมาในยุคเอโดะ ( ค.ศ. 1600-1868 ) ช่วงที่โชกุนโตกูกาวาปกครองญี่ปุ่น โดยให้ขุนนางไปปกครองตามแคว้นต่างๆ นั้น ในช่วงนี้นักรบซามูไรแต่ละสำนักจะแต่งตัวแบ่งแยกตามกลุ่มของตัวเอง เรียกว่าเป็น “ชุดเครื่องแบบ” เลยด้วยซ้ำชุดที่ใส่นี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ชุดกิโมโน ชุดคามิชิโม ตัดเย็บด้วยผ้าลินินใส่คลุมชุดกิโมโนเพื่อให้ไหล่ดูตั้ง และกางเกงขายาวที่ดูเหมือนกระโปงแยกชิ้นชุดกิโมโนของซามูไรจำเป็นต้องเนี้ยบมาก ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่พัฒนากิโมโนไปอีกขั้น จนเป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
สมัยต่อมา ในยุคเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912) ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากต่างชาติมากขึ้น ชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนมาใส่ชุดสากลในชีวิตประจำวัน และจะใส่ชุดกิโมโนเมื่อถึงงานที่เป็นพิธีการเท่านั้น
 วิธีการสวมชุดกิโมโน
1.สวมถุงเท้าทาบิสีขาวก่อนอันดับแรก สวมเหมือนถุงเท้าธรรมดาเลย!!
2.สวมชุดชั้นใน ที่เรียกกันว่า  จูบัน ซึ่งเป็นชุดชั้นในผ้าฝ้ายสีขาว ปัจจุบันนี้มีอีกแบบนึงที่เรียกว่า เอริ ซูกาตะ ซึ่งจะเป็นผ้าฝ้ายสีขาวเฉเพาะส่วนคอ
3. สวมกิโมโน สำหรับ ชาย และ หญิง จะมีวิธีที่เหมือนกัน คือ ซ้ายทับขวาหลังจากนั้นตรวจเช็คด้านหลังให้แน่ใจว่าตะเข็บอยู่ตรงกลาง
ปล.ถ้าขวาทับซ้ายจะเป็นสวมชุดกิโมโนให้กับคนตาย
4.ปรับคอชุดชั้นในให้โชว์ออกมาเพียงเล็กน้อยเท่าๆกันภายใต้คอของชุดกิโมโน
หลังจากเสร็จขั้นตอนของการสวมชุดกิโมโนแล้ว เรายังต้องคาดโอบิอีก
1.ดึงกิโมโนให้สุดความยาวของมัน
2.คาดเชือก โคชิ-ฮิโม จากด้านหลังแล้วผูกที่ด้านหน้า
3.คาดเข็มขัดอีกชิ้นนึง เรียกว่า date-jime belt ให้ทับ โคชิ-ฮิโม
4.วาง โอบิ-มาคุระ ไว้ที่ตำแหน่ง
5.ห่อด้วยโอบิ หรือ ผ้าคาดเอว
6.ผูกปลายทั้ง2 แล้วพับโอบิข้ามเอวไปด้านหลัง
8.ผูกให้แน่นตรงจุดกึ่งกลาง
 คำแนะนำ
–  เกล้าผมและติดปิ่นปักผมเพื่อความสวยงาม
–  อย่าลืมสวมรองเท้า Geta (เกี้ยะ)
–  ไม่ต้องกังวลถ้ากิโมโนยาวไปสำหรับคุณเพราะกิโมโนถูกทำขึ้นแบบนั้นอยู่แล้ว
โคชิ-ฮิโม
1
เอริ-ซูกาตะ
2
โอบิ มาคุระ
3
Date-jime belt (เข็มขัดกิโมโน)
4
รองเท้าเกี๊ยะ (Geta Sandals)

5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น